ขั้นตอนการเลือกฟอนต์ (Font)
ฟอนต์ (Font) หรือแบบอักษร ในแต่ละฟอนต์จะมีลักษณะที่แตกต่างกันและจะมีชื่อกำกับอยู่เสมอ เช่น AngsanaUPC, Arial, Times New Roman ฯลฯ ในเอกสารทั่วไปนิยมใช้รูปแบบอักษรมากกว่าหนึ่งแบบ อาจเป็นเพราะต้องการความสวยงามหรือเพื่อความเหมาะสมกับชนิดของเอกสาร
การเลือกใช้งานฟอนต์ควรเหมาะกับกาละเทศะ หากเราส่งจดหมายถึงเพื่อนจะใช้ฟอนต์อะไรก็ได้ แต่ถ้าเป็นเอกสารราชการหรือจดหมายสมัครงานก็ควรเลือกรูปแบบฟอนต์ที่มีลักษณะเป็นทางการ การพิจารณาว่าฟอนต์ไหนเป็นทางการหรือไม่ให้ดูจากเอกสารที่มีอยู่ ว่าเขาใช้ฟอนต์อะไรกันบ้าง ไม่มีกฎเกณฑ์แน่นอน
แต่ละฟอนต์สามารถเปลี่ยนขนาดได้ แต่ละขนาดจะถูกกำหนดเป็นพอยท์ (Point หรือ Pt) การเพิ่มขนาดก็คือการเพิ่มพอยท์ เช่น ฟอนท์ขนาด 14 พอยท์จะมีขนาดเล็กกว่าฟอนต์ 20 พอยต์ แต่ไม่ควรนำฟอนต์ต่างกันมาเปรียบเทียบกัน เพราะแต่ละฟอนต์มีขนาดมาตรฐานไม่เท่ากัน
ฟอนต์แต่ละชนิดจะมีสัญลักษณ์พิเศษที่แสดงคุณสมบัติของฟอนต์อยู่ข้างหน้าชื่อ เช่น สัญลักษณ์ หมายถึง ฟอนต์แบบ TrueType คือจะให้ผลลัพธ์การพิมพ์เหมือนกับที่แสดงบนจอคอมพิวเตอร์ทุกประการ โดยมีขั้นตอนการเลือกฟอนต์ดังนี้
- เลือกข้อความที่ต้องการเปลี่ยนฟอนต์ ซึ่งสามารถเลือกคำ ประโยค ย่อหน้า หรือทั้งเอกสารก็ได้โดยการทำแถบดำทับข้อความ
- คลิกที่ลูกศรด้านข้างรายการฟอนต์ ฟอนต์จะแสดงรูปแบบอักษรมาให้เลือก
- คลิกเลือกฟอนต์จากรายการ ข้อความที่เราเลือกไว้ก็จะเปลี่ยนรูปแบบเป็นแบบที่เราเลือก
การเปลี่ยนขนาดฟอนต์ (Font)
- เลือกข้อความที่ต้องการเปลี่ยนฟอนต์ ซึ่งสามารถเลือกคำ ประโยค ย่อหน้า หรือทั้งเอกสารก็ได้โดยการทำแถบดำทับข้อความ
- คลิกที่ลูกศรด้านข้างขนาดฟอนต์ ฟอนต์จะแสดงขนาดตัวอักษรมาให้เลือก
- คลิกเลือกขนาดฟอนต์จากรายการ ข้อความที่เราเลือกไว้ก็จะเปลี่ยนขนาดเป็นขนาดที่เราเลือก
เอกสารทั่วๆ ไป มักจะเน้นข้อความบางจุดเพื่อให้ผู้อ่านสนใจ เช่น ขีดเส้นใต้หัวเรื่อง หรือทำตัวหนาในคำศัพท์ยากๆ ด้วยเหตุนี้การเน้นข้อความจึงมักพบในเอกสารทุกชิ้น การเน้นข้อความสามารถทำได้หลายวิธีดังนี้
- เลือกข้อความที่ต้องการเปลี่ยนฟอนต์ ซึ่งสามารถเลือกคำ ประโยค ย่อหน้า หรือทั้งเอกสารก็ได้โดยการทำแถบดำทับข้อความ
- คลิกเลือกแบบของการเน้นข้อความที่ต้องการ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- คลิกที่ปุ่ม สำหรับการทำตัวหนา หรือกด Ctrl + B
- คลิกที่ปุ่ม สำหรับการทำตัวเอียง หรือกด Ctrl + I
- คลิกที่ปุ่ม สำหรับการขีดเส้นใต้ หรือกด Ctrl + U
- วิธีการเน้นข้อความทั้งสามแบบสามารถทำพร้อมๆ กันได้ หากเราใช้ปุ่มใดจะสังเกตว่าปุ่มนั้นจะยุบลงไปแสดงว่าข้อความนั้นมีคุณสมบัตินั้นแล้ว ถ้าต้องการยกเลิกการเน้นข้อความแบบใดให้คลิกที่ปุ่มนั้นซ้ำอีกครั้ง ปุ่มนั้นก็จะกลับคืนสู่สภาวะปกติ คือนูนขึ้นมา
อักษรตัวยกและตัวห้อย
ข้อความหลายประเภทต้องใช้อักษรตัวยกหรือตัวห้อย ได้แก่ สูตรทางเคมีหรือสูตรคณิตศาสตร์ วิธีการทำให้ข้อความเป็นตัวยกหรือตัวห้อยมีรายละอียดดังนี้- เลือกข้อความที่ต้องการหรืออาจเป็นตัวเลข หรือชุดของข้อมูลก็ได้
- เลือกคำสั่ง Format > Font (รูปแบบ > แบบอักษร)
3. คลิกแท็บ Font (แบบอักษร)
4. กำหนดว่าจะให้ตัวอักษรที่เลอกเป็นตัวห้อยหรือตัวยก โดยเลือกเงื่นไขต่อไปนี้
- คลิกเลือก Subscript (ตัวห้อย) หากต้องการอักษรตัวห้อย
- คลิกเลือก Superscript (ตัวยก) หากต้องการอักษรตัวยก
5. คลิกปุ่ม OK
4. กำหนดว่าจะให้ตัวอักษรที่เลอกเป็นตัวห้อยหรือตัวยก โดยเลือกเงื่นไขต่อไปนี้
- คลิกเลือก Subscript (ตัวห้อย) หากต้องการอักษรตัวห้อย
- คลิกเลือก Superscript (ตัวยก) หากต้องการอักษรตัวยก
5. คลิกปุ่ม OK
การเพิ่มสีสันให้กับตัวอักษร
วิธีเปลี่ยนสีข้อความให้ต่างไปจากส่วนอื่นในเอกสาร จะช่วยให้ข้อความเด่นชัดขึ้น ซึ่งวิธีการเปลี่ยนสีข้อความมีรายละเอียดดังนี้
- เลือกข้อความที่ต้องการเปลี่ยนฟอนต์ ซึ่งสามารถเลือกคำ ประโยค ย่อหน้า หรือทั้งเอกสารก็ได้โดยการทำแถบดำทับข้อความ
- คลิกที่ลูกศรด้านข้างปุ่ม
- คลิกเลือกสีที่ต้องการ
การเพิ่มชีวิตชีวาให้กับตัวอักษรนี้ คือ การการสร้างอักษรเคลื่อนไหวหรือ Animation Text ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเราในการเน้นข้อความให้เด่นขึ้น มีวิธีการดังนี้
- เลือกข้อความที่ต้องการเปลี่ยนฟอนต์ ซึ่งสามารถเลือกคำ ประโยค ย่อหน้า หรือทั้งเอกสารก็ได้โดยการทำแถบดำทับข้อความ
- เลือกคำสั่ง Format > Font (รูปแบบ > แบบอักษร) จะได้กรอบโต้ตออบดังรูป
3. คลิกที่แท็บ Animation (อักษรเคลื่อนไหว)
4. คลิกเลือกรูปแบบอักษรเคลื่อนไหวที่ต้องการในช่อง Animations
5. คลิกเลือกปุ่ม OK
4. คลิกเลือกรูปแบบอักษรเคลื่อนไหวที่ต้องการในช่อง Animations
5. คลิกเลือกปุ่ม OK
การวางตำแหน่งข้อความ
โปรแกรม Microsoft Word สามารถจัดวางข้อความให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ การจัดวางข้อความมีรายละเอียดดังนี้
- เลือกข้อความที่ต้องการเปลี่ยนฟอนต์ ซึ่งสามารถเลือกคำ ประโยค ย่อหน้า หรือทั้งเอกสารก็ได้โดยการทำแถบดำทับข้อความ
- คลิกเลือกปุ่มการจัดข้อความ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- ปุ่ม หมายถึง วางข้อความชิดซ้าย
- ปุ่ม หมายถึง วางข้อความไว้ตรงกลาง
- ปุ่ม หมายถึง วางข้อความชิดขวา
- ปุ่ม หมายถึง วางข้อความกระจายเต็มบรรทัด
- ปุ่ม หมายถึง วางข้อความกระจายเต็มบรรทัด แต่เฉลี่ยระยะห่างระหว่างตัวอักษรให้เท่ากัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น